เรื่องที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตของปีนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องการมีห้องนอนเป็นของตัวเองครั้งแรกในชีวิต จากที่ก่อนหน้านี้เตยนอนกับน้องสาวมาตลอด แล้วจะต้องมีการทะเลาะกันเกิดขึ้นตลอด! แต่ตอนนี้ซื้อบ้านใหม่แล้วเลยขอแยกวงค่าาา
ต้องบอกก่อนเลยว่าบ้านที่เตยซื้อเป็นทาวน์โฮมสองชั้น ไม่ได้ใหญ่อะไร เตยยกห้องนอนใหญ่ให้แม่ไปแล้วเตยก็เอาห้องเล็กด้านหลังบ้าน ซึ่งบางคนจะแอบมาบอกว่าเป็นเจ้าบ้านทำไมนอนด้านหลังแต่เตยชอบห้องนี้มากตั้งแต่แรก เพราะห้องนี้เงียบสุด แสงสว่างถึงมากสุดด้วย แต่ตอนหลังไปอ่านฮวงจุ้ยแบบง่ายๆ เจอว่าห้องตำแหน่งที่เตยนอนเนี่ยเป็นตำแหน่งเสือขาวก็เลยยิ่งชอบห้องนี้เข้าไปใหญ่ รู้สึกว่าเสือขาวเท่ดี (ไม่ได้เกี่ยวกับความหมายฮวงจุ้ยอะไรเลย 5555)
เตยตั้งเป้าหมายไว้หลักๆ ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ก็คือ ต้องดูแลรักษาง่าย อยากรู้สึกเบา โล่ง สบายและสะอาดเวลาที่เดินเข้ามาในห้อง และรู้สึกสดชื่น อยากตื่นขึ้นมาทำกิจกรรมตอนเช้า แต่ด้วยความที่ห้องเล็กม๊ากกกกก็เลยต้องคิดเยอะขึ้นมาหน่อยแต่สุดท้ายวันนี้เตยพอใจกับการจัดห้องนอนของตัวเองแล้วค่ะ
มาเริ่มทัวร์ห้องนอนกันเลยดีกว่าค่ะ ประตูห้องนอนเตยอยู่ที่มุมซ้ายของห้องพอดี เปิดเข้าไปเจอตู้ใหญ่ๆ ด้านซ้าย ด้านขวาเป็นเตียง ถัดมาใกล้ๆ ประตูก็เป็นโต๊ะทำงานค่ะ
มาเริ่มกันที่เตียงก่อนดีกว่า เตยนอนคนเดียวเลยใช้เตียงเดี่ยวที่ซื้อมาจากอิเกีย เพราะถูกและขนาดเล็กกว่าเตียงทั่วไปทำให้ประหยัดพื้นที่ได้อีกค่ะ ใจจริงเตยอยากจัดเตียงให้อยู่ตรงกลาง สามารถเดินขึ้นเตียงจากด้านซ้ายหรือขวาก็ได้ แต่ว่าพื้นที่ไม่พอและการที่หน้าต่างอยู่บนหัวนอนทำให้นอนหลับไม่ค่อยสนิทเพราะส่วนตัวไม่ชอบให้มีอะไรบนหัว พอมีม่านบนหัวก็เลยรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย ที่สำคัญเรดาร์ชอบเหยียบหัวเพื่อมุดหัวไปดูวิว
ส่วนม่านเป็นของอิเกียอีกเหมือนกัน ของส่วนใหญ่เตยซื้อมาจากอิเกียนะคะ เพราะว่าอยู่ใกล้ นั่งรถไฟฟ้าไปถึงเลย ดีไซน์ก็ตรงใจ ปรับใช้ได้เยอะ ราคาไม่แพงด้วยค่ะถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆ เตยไม่ชอบม่านผ้าที่เป็นผ้าปลิวๆ เพราะขี้รำคาญ พอเปลี่ยนมาใช้ม่านแบบนี้แล้วรู้สึกบ้านเรียบร้อยขึ้นมาก แถมยังใช้ง่ายด้วย เราเปิดถึงตรงไหนมันก็เปิดค้างที่ตรงนั้นเลย
โต๊ะข้างเตียงและโคมไฟก็เป็นของอิเกีย เตยเอามาวางที่นอนแมว จากตอนแรกแมวมานอนบนเตียงแล้วอึดอัดเลยเอาที่นอนมาวาง พอที่นอนวางไว้บนพื้นแมวมองไม่เห็นเตยก็ไม่ยอมนอนอีก 555 ก็เลยหาโต๊ะมาวางค่ะ ข้างล่างวางโคมไฟ ตอนแรกไม่ชอบที่วางไว้โคมไฟไว้บนพื้นแต่พอลองนอนสองสามวันแล้วรู้สึกว่ามันดีจัง ไม่แยงตาจนเกินไป
ต่อมาเป็นโต๊ะทำงาน ตอนแรกเตยตั้งใจใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนอย่างเดียวแล้วค่อยทำงานชั้นล่าง แต่อยู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า เอ๊ะ เวลาทำงานก็อยากได้ความสงบและความเป็นส่วนตัว แถมตื่นเช้ามาอยากนั่งเขียนไดอารี่ก็ไม่มีโต๊ะ ก็เลยไปซื้อโต๊ะมาเพิ่มเลือกโต๊ะสีขาว และเลือกโต๊ะที่ยาวขึ้นแต่ว่าหน้าแคบจะได้ไม่เปลืองพื้นที่ โต๊ะตัวนี้มีหน้าโต๊ะเป็นกระจกด้วยเวลาวาดรูปใช้สีอะคริลิกก็สามารถเช็ดออกได้ด้วย ส่วนเก้าอี้ปัจจุบันเตยใช้เก้าอี้จากโต๊ะกินข้าวไปก่อนเพราะยังไม่เจอเก้าอี้ที่ถูกใจ ช่วงนี้เตยใช้จักรเย็บผ้าก็เลยวางไว้ใกล้ๆ ก่อน
เตยใช้หลักการจัดของ Konmari มาสัก 2-3 ปีแล้ว สิ่งหนึ่งที่เรียนรู้คือ ทุกอย่างจะมีที่เก็บของมันเองดังนั้นเตยจะไม่วางอะไรบนโต๊ะทำงานเลย เครื่องเขียนเป็นของที่เตยให้ความสำคัญค่อนข้างมากและเตยมีเครื่องเขียนเยอะ เตยใช้วิธีแบ่งที่เก็บเป็นสองโซนโดยเครื่องเขียนพวกปากกา สีไม้ กรรไกร จะถูกเก็บในลิ้นชักของโต๊ะตัวนี้ ส่วนพวกสีอะคริลิกต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์งานฝีมือถูกเก็บไว้ในตู้ค่ะ
เตยจัดวางเครื่องเขียนลงในถาดตามประเภทการใช้งานค่ะ สีไม้ก็อยู่ด้วยกันไม่ว่ามันจะเป็นยี่ห้ออะไร เตยมีสีไม้เยอะก็เลยแบ่งตามโทนสีไปค่ะ ส่วนปากกาสีเตยแบ่งเป็นพวกที่โดนน้ำได้และโดนน้ำไม่ได้ค่ะ แล้วก็มีสี pastel กับ oil pastel แยกกันไปอีก สี pastel เตยแบ่งลงช่องเล็กๆ ตามโทนสีเพราะสี pastel เป็นแท่งเล็กแต่ว่าเลอะง่ายมากๆ
ใต้โต๊ะเตยวางกล่องใส่สายไฟและของเล่นเรดาร์ไว้ เตยซื้อกล่องใส่สายไฟมาจาก index living mall ค่ะ จริงๆ มันเป็นกล่องใส่ปลั้กพ่วงแต่เตยไม่ค่อยได้ใช้ปลั๊กพ่วงเลยเก็บสายไฟและสายชาร์จมือถือที่ใช้ทุกวันรวมถึงรีโมทแอร์ไว้ในนั้นเลยค่ะ
ถัดจากประตูไปอีกด้านนึงเตยติดกระจกไว้และติดชั้นวางหนังสือเล็กๆ ด้านบนกระจก เตยติดกระจกพลาดไปหน่อย เบี้ยวๆ แต่ไม่เป็นไรรับได้ ถ้าวันไหนว่างๆ อาจจะเอาสีมาเพ้นท์ลายให้มันดูลอกตาว่ากระจกไม่เบี้ยวก็ได้ 555 จริงๆ ตามหลักฮวงจุ้ยคือไม่ควรมีกระจกในห้องนอน หรือไม่ก็ต้องเลือกติดกระจกให้สะท้อนแต่สิ่งที่สวยๆ งามๆ เป็นศิริมงคลในบ้าน ส่วนตัวเตยไม่ชอบนอนแล้วเห็นกระจกก็เลยกำลังคิดว่าอยาก DIY หาม่านมาปิดกระจกสักนิด
ส่วนหนังสือเตยก็เลือกแต่อันที่เห็นแล้วรู้สึกดี เล่มไหนที่ดูเครียดถึงแม้ว่าเล่มนั้นจะเป็นหนังสือที่ให้ความรู้ดี เตยเอาออกเลยค่ะ 555 เตยมีหนังสืออยู่สองโซนคือโซนนี้และในตู้ค่ะ
ถัดมาเป็นตู้ที่เตยพูดถึงค่ะ เป็นตู้ Pax ของอิเกีย ตู้ขวาเป็นพวกเสื้อผ้า ส่วนตู้ซ้ายเป็นพวกเครื่องเขียน จริงๆ แล้วตู้เสื้อผ้านี้ราคาค่อนข้างสูงแต่ว่าปรับแต่งได้เยอะ มีชั้นวางหลายแบบทั้งแบบชั้นวางปกติ แบบถาด แบบลิ้นชัก แบบตะกร้า แถมตู้มีหลายขนาดด้วยค่ะ ถ้าเตยซื้อตู้เสื้อผ้าตู้เดียวแล้วซื้อตู้เก็บของอีก 1 ตู้มันก็ราคาไม่ได้ต่างกันมากแถมยังมีความหลากหลายของตู้อีกทำให้ห้องดูรกเหมือนกับว่ามีเฟอร์นิเจอร์หลายชิ้น เตยเลือกแบบ 75 เซนติเมตรสองตู้เพราะว่าพื้นที่มีจำกัดและตู้ขนาดนี้ใส่กระดาษ A2 ได้ เตยจัดเสื้อผ้าเตยแบบ konmari มานาน 2-3 ปีแล้วเลยรู้ว่าเตยสามารถเก็บเสื้อผ้าของเตยทั้งหมดไว้ได้ใน 2 ลิ้นชักทำให้เตยรู้ว่าตู้นี้พอแน่นอนสำหรับของทั้งหมดของเตย ส่วนประตูตู้ยังไม่ซื้อเพราะงบหมดและยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาสีอะไร มันมีสีเขียวแบบที่เตยชอบกับสีขาวครีมที่ทำให้ห้องดูสว่างโล่งดีค่ะ
ในส่วนด้านขวาที่เอาไว้เก็บเสื้อผ้า ด้านบนสุดเป็นที่เก็บกระเป๋าสะพายใหญ่ๆ เตยเอาใส่ในกล่องสีขาวของอิเกียแล้วค่อยวางไว้ชั้นบนสุด เป็นของที่ไม่ค่อยได้ใช้ค่ะ ชั้นถัดมาก็เป็นพวกอะไหล่กล่องเก็บของต่างๆ ที่เหลืออยู่ค่ะ
ถัดลงมาเป็นราวแขวนเสื้อ เตยซื้อไม้แขวนเสื้อสีดำมาจากอิเกีย ราคาไม่แพงแถมบางด้วย การที่ใช้ไม้แขวนแบบเดียวกันทำให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้นด้วยค่ะ ที่เพิ่งสังเกตก็คือเสื้อผ้าที่แขวนเป็นโทนสีเดียวกันทั้งหมดเลย ผ้าเช็ดตัวเตยมีแค่สองผืนใช้สลับกัน พัฒนามาจากเมื่อก่อนมีแค่ผืนเดียวนะ ใช้แดดประเทศไทยให้เป็นประโยชน์ด้วยการซักเช้าเย็นก็ใช้ได้แล้ว แต่ตอนนี้เพิ่มมาอีกผืนเผื่อไว้เฉยๆ ตอนนี้เตยยังไม่มีประตูตู้เสื้อผ้าก็เลยตากผ้าเช็ดตัวในนี้ไปเลย ตอนนี้กำลังเล็งๆ อยู่ว่าต่อไปจะแขวนที่ไหนดี อาจจะทำราวใต้กระจกก็ได้
เสื้อผ้าที่ต้องแขวน ส่วนใหญ่เป็นพวกเสื้อที่รีดมาแล้วหรือว่ายับง่ายค่ะ หมวกมีแค่ใบเดียวเลยเอามาแขวนให้เหมือนเป็นของตกแต่งไป
ลิ้นชักแรกเตยเอาไว้เก็บของที่เตยชอบและเครื่องประดับต่างๆ ของที่แค่มองก็รู้สึกสงบแล้ว มีหินที่ซื้อมาจากญี่ปุ่น เทียนหอม ปอมปอมที่จะเอามาตกแต่งงานฝีมือแต่ว่ายังไม่ได้ใช้ มีไพ่ทาโรต์ และ affirmation card ที่ซื้อมาจากศิลปินจากออสเตรเลีย ด้านบนลิ้นชักเตยเลือกใช้ชั้นที่เป็นกระจกทำให้มองเห็นของในลิ้นชักได้เลย
ลิ้นชักที่เหลืออีก 3 ชั้นเตยไว้ใช้เก็บเสื้อผ้า ส่วนชั้นล่างสุดเตยเอาไว้เก็บอุปกรณ์งานฝีมือเพราะที่เหลือจากเสื้อผ้า ชั้นแรกเป็นพวกชุดชั้นใน ผ้าอนามัย ชุดออกกำลังกาย ชุดว่ายน้ำ และกระเป๋าผ้าต่างๆ เตยใช้กล่องผ้าจากอิเกียอีกแล้ว เตยเคยซื้อกล่องผ้าลายสตอเบอรี่จากร้านพวก 60 บาท พอจัดของใส่แล้วก็ยังรู้สึกรกอยู่จนกระทั่งเปลี่ยนมาใช้ของอิเกียที่เป็นสีขาวแล้วรู้สึกว่าเป็นระเบียบขึ้นเยอะมากๆ เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ อีกอย่างที่เตยใช้คือการเอาคลิปหนีบกระดาษมาหนีบกล่องให้ติดกันทำให้เวลากล่องเลื่อนมันก็เลื่อนไปด้วยกันทำให้ดูเป็นระเบียบไม่กระจัดกระจายค่ะ
เสื้อและชุดนอนพยายามเรียงตามโทนสีค่ะ ชั้นนี้เยอะหน่อยเป็นพวกชุดกระโปรงและกางเกงค่ะ ชั้นล่างสุดจริงๆ คือเหลือพื้นที่จากเสื้อผ้าก็เลยเอาอุปกรณ์งานตัดเย็บและโครเชต์มาเก็บไว้ค่ะ
ถัดมาเป็นพวกเสื้อสองแถว ด้านขวาเป็นชุดนอน เสื้อกันหนาว และผ้าเช็ดตัว เตยพยายามจัดเสื้อผ้าตามโทนสีด้วยค่ะ เตยทำตาม konmari มา 2-3 ปีแล้วแต่ต้องยอมรับเลยว่าเสื้อผ้าบางตัวมันจำเป็นต้องเก็บไว้ เช่น เสื้อบริษัทหรือเสื้อสุภาพต่างๆ ที่เตยยังหาซื้อตัวใหม่ที่ชอบกว่านี้ไม่ได้ก็เลยเก็บไว้ เอาจริงๆ ถ้าไม่ต้องสนใจเรื่องอื่นเลยเตยสามารถทิ้งเสื้อผ้าได้อีกครึ่งนึงเลยนะคะ
ชั้นถัดลงไปอีกเป็นพวกกางเกงและกระโปรง จะเห็นได้ว่าทุมโทนเข้มมากๆ ด้านขวาจะเป็นพวกชุดเดรส ในนี้จะมีชุดเดรส 2-3 ตัวที่เอาไว้ใส่ไปงานเลี้ยงต่างๆ และจะมีชุดเดรสสีดำที่เก่าแล้วแต่ว่ามันเรียบร้อยอยู่สามารถใส่ไปงานศพได้ เตยว่าพวกนี้สำคัญ บางทีเราต้องไปร่วมงานกระทันหันก็สามารถหยิบมาใส่ได้เลยค่ะ
ชั้นล่างสุดเป็นพวกอุปกรณ์ตัดเย็บ อะไหล่งานฝีมือ ผ้าที่เตรียมเอาไว้ตัดเป็นเสื้อผ้าใส่เองได้ค่ะ เตยใส่อุปกรณ์เข้าไปในกล่องแยกตามกิจกรรม โครเชต์ก็จะมีพวกไหมพรม อีกกล่องเป็นผ้า ด้ายปัก เข็มสำหรับปักผ้าค่ะ
ถัดมาที่ตู้ด้านซ้ายเริ่มจากด้านบนเป็นที่วางกระเป๋าที่ใช้บ่อย ซึ่งมีแค่สองใบเท่านั้น อีก 3-4 ใบเตยเก็บไว้ในกล่องขาวด้านขวาค่ะ
โซนนี้เป็นโซนที่ภูมิใจมากๆ ของเยอะแต่ก็ยังสามารถจัดได้เฉยเลยค่ะ และที่ภูมิใจอีกอย่างคือเตยไปเจอชั้นวางของที่เป็นของตู้ Pax รุ่นสำหรับตู้ขนาด 100 x 35 เซนติเมตรในโซนที่เค้าขายตัวโชว์ลดราคาอยู่จาก 1,000 บาทเหลือ 300 บาทค่ะ เตยก็ซื้อมาแล้วไปให้ช่างแถวบ้านตัดไม้ออกให้สองด้านเพื่อเอาไปวางบนตู้ เหตุผลที่ต้องซื้อชั้นนี้มาวางก็คือต้องการวางหนังสือในชั้นนี้ด้วย แต่ว่าตู้ลึกมากทำให้มองไม่เห็นหนังสือเวลาเอาหนังสือตั้งค่ะ พอมีชั้นวางขึ้นมาก็ทำให้หยิบหนังสือได้ง่ายขึ้นแล้วทำให้ดูเหมือนเป็นของตกแต่งบ้านได้ด้วยค่ะ
ชั้นวางหนังสือนี้เน้นวางหนังสือเล่มใหญ่ค่ะ เพราะชั้นหนังสือตรงกระจกนั้นลึกแค่ 20 เซนติเมตรเองค่ะ นอกจากนี้ก็มีสมุดวางไว้ระหว่างเอกสารและหนังสือ ส่วนเอกสารเตยเอาใส่ไว้ในกล่องไม้แยกเป็น 3 กล่องคือกล่องใส่ประกาศนียบัตรและเอกสารชั่วคราวที่ยังไม่ได้จัดเก็บ อีกกล่องเป็นเอกสารที่จัดเก็บใส่แฟ้มขาวใส ส่วนใหญ่เป็นเอกสารภาษีและการเงินจัดเรียงตามปีไปค่ะ กล่องสุดท้ายเป็นพวกแพทเทิร์นตัดเสื้อผ้าค่ะ
ชั้นล่างลงมาเป็นพวกอุปกรณ์ไฟฟ้า สายชาร์จที่ไม่ค่อยได้ใช้ เตยก็เก็บใส่กล่องดำไว้ค่ะ ส่วนกล่องลายกราฟฟิคเป็นพวกสมุดที่ใช้แล้วและเลือกที่จะเก็บไว้ รวมถึงโปสการ์ดที่ได้จากการเล่น postcrossing ค่ะ แล้วก็มีกล่องใสใส่รูปถ่าย คือไม่น่าเชื่อว่าเตยรวมรูปที่มีทั้งหมดไว้ได้แค่ในกล่องเล็กๆ กล่องเดียว นอกนั้นเตยทิ้งไปหมดแล้วค่ะ ที่สำคัญคือแฟ้ม project life ที่เคยทำเตยตัดสินใจทิ้งหมดเลยค่ะ แต่เลือกเก็บการ์ดที่ชอบไว้นะ ทำใจทิ้งยากมากๆๆๆๆๆๆ
ในชั้นนี้เตยก็เก็บพวกพู่กันแบ่งเป็นสองอันตามขนาด แต่พู่กันนี้เตยยังไม่ได้คัดทิ้งเท่าไหร่ เตยก็มองมันเป็นของแต่งบ้านไปด้วย กรอบรูปที่ใส่รูปเมฆที่เพื่อนโบว์ส่งมาให้เพราะดูแล้วรู้สึกสงบดีทำให้นึกถึงเพื่อนโดยไม่ต้องเห็นหน้าด้วย 555 ส่วนด้านซ้ายเป็นที่ใส่กระดาษและสมุดเล่มเล็ก แล้วก็แว่นตาที่เตยตั้งใจวางตรงนั้นเพราะกลัวลืมใส่แว่นเลยวางไว้ตรงที่เห็นชัดๆ
ชั้นถัดมาเป็นโซนความสวยความงามค่ะ พวกสกินแคร์เครื่องสำอาง จริงๆ มีเครื่องสำอางอีกนิดหน่อยที่เตยวางไว้ด้านนอกเพราะมันสูงเกินใส่ในชั้นนี้ไม่ได้ค่ะ เตยจัดเรียงตามประเภทและลักษณะของแพคเกจค่ะ แล้วจะมีกล่องใหญ่กล่องนึงเอาไว้ใส่พวกสัพเพเหระต่างๆ ด้วยค่ะ
เมื่อก่อนตอนอ่าน konmari เตยไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมทุกวันต้องเอาของออกจากกระเป๋ามาวาง พอลองทำดูก็ลืมของบ่อยมากๆ จนสุดท้ายคิดได้ว่าเป็นเพราะเตยไม่มีที่สำหรับวางของจากกระเป๋าโดยเฉพาะทำให้ใช้เวลาหยิบเข้าออกมากขึ้น ลืมของบ่อยขึ้น ตอนนี้ก็เลยเตรียมกล่องสำหรับใส่ของพวกนี้โดยเฉพาะ แล้วของที่คิดว่าจะเอาไปคืนเพื่อนหรือว่าของที่ต้องเอาไปทำธุระต่อเตยก็จะเอามาให้ในนี้ด้วยเหมือนกัน นอกจากนั้นก็มีที่วางคอมพิวเตอร์ กล้อง ยา เสบียงขนมด้วยค่ะ 555 รวมกันไว้ที่เดียวเลย
ต่อไปจะเป็นโซนเครื่องเขียนแล้วค่ะ ชั้นแรกเป็นสีชั้นสีอะคริลิกล้วนๆ เลยค่ะ แบ่งตามโทนสีอีกเช่นเคย แล้วมีกล่องนึงเป็นที่ใส่น้ำยาเคลือบ gesso ต่างๆ ค่ะ ครั้งแรกที่เตยแยกตามสีคือตกใจมากที่เตยมีสีเขียวและชมพูเยอะมากๆ สีที่มีน้อยคือฟ้าและแดงเลยใส่รวมกันไว้
ถัดมาเป็นโซนกระดาษค่ะ แบ่งตามขนาดกระดาษและสภาพการใช้งานคือถ้าวาดแล้วไว้กองนึง กระดาษเปล่าไว้อีกกองนึง ชั้นที่เป็นถาดเอาไว้วางกระดาษแผ่นเล็ก พอเป็นถาดเลื่อนเราก็เลื่อนออกมาหยิบกระดาษที่อยู่ด้านในได้ค่ะ
ชั้นสุดท้ายเป็นผ้าล้วนๆ เรียงตามประเภทของผ้าค่ะ ถ้าใครมีโปรเจคผ้าที่น่าสนใจ แนะนำเตยได้นะคะ
จริงๆ อยากเขียนแนวเปิดห้องนานแล้วแต่ห้องยังไม่เรียบร้อย เอาจริงๆ ตอนนี้ห้องก็ยังไม่เรียบร้อยดีนะคะ ใต้เตียงคือมีไม้ที่จะเอามาต่อชั้นติดกำแพงอีกค่ะ แต่เตยมองว่าจัดบ้านเป็นโปรเจคระยะยาว ค่อยๆ ปรับแต่งไปเรื่อยๆ แผนไปยาวๆ เป็นปีๆ เลยค่ะ พอคิดได้แบบนี้ก็ใจเย็นลงมากๆ