ต้นเดือนที่ผ่านมาเตยได้ไปสิงคโปร์มา ก่อนไปตั้งใจว่าจะไปร้านขายเครื่องเขียนแน่นอน เพราะรู้ว่าที่สิงคโปร์มีขายอุปกรณ์งานฝีมือค่อนข้างเยอะกว่าในประเทศไทย แต่หาข้อมูลไม่ได้ค่อยทำให้ไม่รู้ว่าต้องไปร้านไหนเป็นพิเศษ จนกระทั่งก่อนไปหนึ่งวันเตยค้นเจอว่าที่สิงคโปร์ใช้แอพ Yelp กันเยอะ พอลองใช้ดูทำให้เจอหลายๆ ร้านและได้ไปจริงๆ หลายที่เหมือนกัน วันนี้เตยจะมาบอกลายแทงให้ว่าจะไปหาซื้ออุปกรณ์งานฝีมือ หรือเครื่องเขียนได้ที่ไหนบ้างในสิงคโปร์ค่ะ ร้านที่เตยไปส่วนใหญ่จะอยู่เส้นที่ติดกับรถไฟฟ้าทั้งนั้นนะคะ
วันแรกที่เตยไปถึงได้เจอเพื่อนที่ทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ เพื่อนก็เล่าว่าคนสิงคโปร์ค่อนข้างเด่นเรื่องการเงินกัน ส่วนด้านศิลปะไม่ค่อยเด่นมากเท่าไหร่ ร้านงานฝีมือก็เลยมีน้อย แต่พอวันหลังๆ ที่เตยได้ไปเดินแล้วพบร้านเครื่องเขียนเยอะมาก และใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย ของก็มีความหลากหลายมาก น่าจะเป็นเพราะสิงคโปร์เป็นเมืองท่าด้วยทำให้มีสินค้าจากหลากหลายที่
Papermarket
ร้านนี้ตั้งอยู่ใน Plaza Singapura ชั้น B1 หน้าบันไดเลื่อนเลย เตยไม่ได้ถ่ายรูปในร้านมา แต่จะเล่าคร่าวๆ ว่าของในร้านนี้เป็นอุปกรณ์ทำ Scrapbook ล้วนๆ คล้ายๆ Mindmemory ในกรุงเทพ แต่ว่าของในร้านเยอะกว่ามากเลย โดยเฉพาะพวก Pocket scrapbook หรือ Project Life พูดง่ายๆ คือถ้าจะหาของทำ scrapbook ต้องเป็นร้านนี้เลยค่ะ
เท่าที่ลองเทียบๆ ดูแล้ว ส่วนตัวรู้สึกว่าของราคาไม่ได้ถูกมากเท่าไหร่ ถ้าซื้อเยอะๆ ซื้อออนไลน์ส่งตรงจากอเมริกาน่าจะถูกกว่า แต่ก็มีหลายๆ อย่างที่ราคาถูกกว่าไทย และถ้าไปช่วงที่ลดราคาได้จะดีมาก ลดกันจริงจัง 40-60% ตอนที่เตยไปได้ลด 40% เพื่อนที่สิงคโปร์บอกว่าบางทีเขาลด 60% เลยด้วย
Art Friend
ร้านนี้ยังอยู่ใน Plaza Singapura อยู่ติดกับร้าน Papermarket เลย หน้าร้านดูแคบๆ เล็กๆ จนเกือบไม่เดินเข้าไปดูแล้ว แต่พอเดินเข้าไปเท่านั้นแหล่ะ ตกใจกับความใหญ่ของร้าน ร้านนี้เป็นร้านที่เตยประทับใจมากที่สุดในบรรดาทุกๆ ร้านที่ไปมา ร้านนี้อารมณ์คล้ายๆ เป็นร้านสมใจนึกที่ใหญ่เหมือน Officemate เตยถ่ายรูปร้านนี้มาเยอะหน่อยเพราะประทับใจ อยากมีแบบนี้ในเมืองไทยบ้าง
เดินเข้ามาเลี้ยวซ้ายโซนแรกจะเป็นพวกสีต่างๆ คือมีสีทุกแบบ อะคริลิค สีน้ำ สีน้ำมัน สีหมึก ยี่ห้อก็หลากหลายมีเยอะมากๆ แถมหลายๆ อย่างราคาถูกมากด้วยจนคิดว่าคำนวณผิด คำนวณแล้วคำนวณอีก เฮ้ยถูกอะ มีตัวนึงจำได้ว่าที่ไทยซื้อมา 450 บาท ไปเจอที่ญี่ปุ่น 200 บาท มาเจอในร้านนี้ 100 บาท!! เสียดายที่ไม่พร้อมขนกลับบ้านเพราะเอามาแค่เป้ใบเล็กเอง ส่วนพวกกาว Mod Podge ก็เยอะมากๆ มีทุกรูปแบบ ซอยถัดมาก็เป็นพวกแฟ้ม อุปกรณ์วาดรูป พูดง่ายๆ มีแทบทุกอย่าง อุปกรณ์เย็บปักถักร้อยก็มี แต่ไม่เยอะมาก อย่างรูปล่างด้านซ้ายคือ อุปกรณ์ทำเครื่องประดับ อย่างตัวล็อค ตัวหยุด มีเอ็นร้อยลูกปัด ซิป มีผ้าสักหลาดแบบหนาๆ ขายด้วย ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเมืองไทยไม่ค่อยมีขาย ถึงมีก็เป็นแบบบางอย่างเท่านั้น
อีกโซนนึงที่ชอบมากกกกกกก ในร้านนี้คือโซนกระดาษ เพราะมีเยอะมากกกกกกกกกก มีแทบทุกสี ทุกความหนา มีโซนที่ทำกระดาษเป็นการ์ดสำเร็จรูปให้เรียบร้อย มีซองกระดาษจดหมายขายด้วย แล้วไม่ได้มีนิดๆ หน่อยๆ นะคะ มีทุกสี สีทอง สีเงินก็ยังมี อิจฉาคนที่สิงคโปร์ก็ตรงนี้แหล่ะ ฮ่าๆ
Spotlight
ยังอยู่กันที่ Plaza Singapura นะคะ ร้านนี้อยู่ชั้นบนๆ เลยค่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชั้น 4 ค่ะ ร้านนี้ใหญ่ที่สุดในบรรดาทุกร้านที่ไปมา คือประมาณครึ่งนึงของชั้นเป็นร้านนี้ค่ะ
ตอนแรกเข้าไปเดินแปบๆ ก็ออกเพราะมีแต่ผ้าที่เอามาทำผ้าม่านเป็นส่วนใหญ่ด้วย ส่วนตัวคิดว่าที่นี่ผ้ามีลายหลายหลายดี แต่ครึ่งนึงก็เป็นแนวดอกไม้สไตล์แขกๆ หรือไม่ก็เป็นผ้าที่เอาไว้ทำผ้าคลุมผมของอิสลาม ส่วนผ้าพิมพ์ลาย โดมบอกว่าผ้าไทยดีกว่า ส่วนเตยคิดว่าเนื้อผ้าคล้ายๆ พวกผ้า 3 เมตร 100 ที่พาหุรัด เนื้อจะหยาบๆ หน่อยแต่ราคาที่นี่แพงกว่ามากเลยค่ะ
ออกจากร้านมาได้นิดหน่อยเห็นอีกประตูนึง บอกโดมว่า เดี๋ยวเข้าไปดูแปบนึงนะ ด้วยความเข้าใจว่าคงเป็นอีกโซนนึงเล็กๆ พอเข้าไปเท่านั้นแหล่ะ เฮ้ยยย ใหญ่มาก โซนแรกที่เดินเข้าไปคือโซนผ้า โซนต่อมาเป็นโซนกระดาษ มีอุปกรณ์ Scrapbook เพียบเลย พวกแฟ้ม ซอง เยอะกว่าร้าน Papermarket อีก แต่ราคาก็โหดกว่าหลายอย่างเหมือนกัน ถ้าใครหาอะไรเป็นพิเศษแนะนำให้ดูที่ร้าน Papermarket ก่อนค่อยมาร้านนี้ ร้านนี้มีกาว มีโฟมอัด คล้ายๆ Art friend แต่น้อยกว่าค่ะ
ที่มีเยอะกว่า Papermarket และ Art friend คือ พวกอุปกรณ์แต่งบ้าน จัดปาร์ตี้ ที่นี่มีเยอะมาก มีหน้ากาก หลอด จาน ครบทุกอย่างเลยค่ะ อีกโซนนึงที่เดินหลงเข้าไปคือโซนลูกปัด บอกเลยว่าเยอะมากกกกกกกก ทั้งแผงเป็นลูกปัดค่ะ ใครทำเครื่องประดับน่าจะชอบโซนนี้
ที่นี่จริงๆ คือเน้นงานผ้าเป็นหลัก อุปกรณ์เกี่ยวกับผ้าก็เยอะตามค่ะ ยางยืดนี่ก็แบ่งขายแบบจริงจังมีทุกขนาด หลายแบบเลยค่ะ ถ้าจะตัดเสื้อผ้ามาที่นี่ก็จบเลย มีครบทุกอย่างให้เลือกสรร ริบบิ้นที่นี่ก็เยอะมากเลยค่ะ เต็มๆ หนึ่งล็อค มีทั้งริบบิ้นทั่วไป ริบบิ้นผ้าลูกไม้ หรืออย่างรูปขวาล่างก็มีค่ะ แต่อันนี้เป็นแบรนด์ไทยนะคะ เท่าที่เดินในสิงคโปร์มีแบรนด์ไทยไปขายที่นี่เยอะเหมือนกันนะคะ
ร้านนี้ใครที่ชอบงานผ้าคงติดใจอยู่ได้นานเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องราคาเตยไม่แน่ใจนะคะว่าแพงไหม แต่คิดว่าน่าจะแพง หลายอย่างซื้อที่ไทยคงถูกกว่า แถมหลายอย่างก็นำเข้าจากไทยนี่แหล่ะ แล้วแบบนี้จะไปซื้อที่นู้นทำไมเนอะ
Monoyono
ร้านนี้ไม่ได้เป็นร้านอุปกรณ์ Scrapbook นะคะ แต่ว่ามีขายพวกโปสการ์ด การ์ด สมุดบันทึก ของใช้จุกจิกต่างๆ ที่นำเข้ามาเพียบเลยที่เห็นๆ ก็มีของ Kate Spade, Ban.do, Quotable ประมาณนี้ค่ะ แต่ราคาก็สูงอยู่เหมือนกันค่ะ พวกการ์ดไปย่าน Haji lane จะถูกกว่ามากเลยค่ะ แต่อาจจะเป็นแบรนด์ของสิงคโปร์เองไม่ใช่พวกแบรนด์จากอเมริกาแบบนี้ค่ะ
Kikki-k
ร้านนี้เป็น A MUST!!! สำหรับเตยเลยค่ะ ตั้งใจจะไปชัวร์ๆ ไม่ว่ายังไงก็ตาม ตั้งอยู่ที่ ION Orchard เดินออกจากรถไฟฟ้ามาก็เจอเลยค่ะ แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ของออสเตรเลียค่ะ เป็นร้านขาย Stationary เดินอยู่ในร้านนี้นานมากกกกก ดูทุกเล่มแบบละเอียดเลย ชอบมาก แต่ไม่ได้ซื้อมาเพราะงบไม่พอ เดี๋ยวไม่มีเงินกินข้าว
Stationary Superstore
ร้านนี้อยู่ห่างจากร้านอื่นๆ มาหน่อยค่ะ และต้องเดินจากรถไฟฟ้ามาประมาณ 5-6 นาทีค่ะ อยู่ที่ Funan Digitalife Mall ค้นเจอใน Yelp เห็นชื่ออลังการดีก็เลยมาแวะดู
ร้านนี้เหมือน Officemate มากกกกก ร้านไม่ได้ใหญ่มากแต่ได้ของจากร้านนี้มาเยอะเหมือนกันค่ะ ส่วนใหญ่ของที่นี่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นทั้งนั้นเลย โดยเฉพาะแบรนด์ Midori ที่นี่มีหลายอย่างเลย ตอนไปญี่ปุ่นได้ไปแค่ Tokyu hand เห็นแต่สมุด Traveler notebook แต่ว่าที่นี่มีตัวหนีบ, post-it เยอะมาก ของหลายอย่างก็ราคาก็ไม่แพงมากเท่าไหร่ด้วยค่ะ
Kinokuniya
เดาไว้ว่าร้านที่นี่น่าจะใหญ่อยู่เหมือนกัน พอมาจริงๆ ก็เป็นไปตามคาด ร้านนี้อยู่ที่ Ngee Ann City เดินจากรถไฟฟ้ามาหน่อย ซึ่งตอนมาและตอนกลับหลงทางทั้งสองรอบเลยไม่สามารถบอกได้ว่าไกลไหม 5555
โซน Art & architecture ค่ะ ค่อนข้างใหญ่พอควร โดยครึ่งนึงเป็น Interior และ Architecture ค่ะ แอบมีข้อสังเกตนิดหน่อยว่าตึกที่นี่ดูดีไซน์ก็ธรรมดาไม่ได้แปลกอะไร พื้นที่ก่อสร้างอะไรก็น้อย แต่ว่าหนังสือแนวนี้เค้าเยอะมากจริงๆ เตยคิดเอาเองว่า ถ้าไม่กำลังพัฒนาคนกลุ่มนี้อยู่ก็อาจเป็นตึกที่เน้นการใช้สอยรึเปล่า ส่วนหนังสือพวก Fine art หรือ Graphic มีไม่เยอะมากเท่าไหร่ น่าจะพอๆ กับไทย แต่จัดเรียงหนังสือดูง่ายกว่าที่ไทยเยอะมากค่ะ หนังสือ Craft จะอยู่ในโซน Hobby ดูเน้นงานผ้าจะเยอะหน่อย งานกระดาษรองลงมาค่ะ มีหนังสือไม่มากนะคะ
ราคาหนังสือที่นี่ดูแพงกว่าไทยนะคะ แต่หลากหลายกว่าโดยเฉพาะหนังสือพวก Business, Career ที่ชอบคือมีโซนหนังสือ Career กับ Leadership เลย ถ้าจำไม่ผิดไทยจะไม่ได้จัดแบบนี้ค่ะ มีหนังสือหายากอย่าง Renaissance Soul ด้วย ประทับใจตรงนี้
Book Actually
อีกร้านนึงอยู่ที่ Tiong Bahru ค่ะ เป็นร้านหนังสือเล็กๆ เน้นขายหนังสือนอกกระแสค่ะ ทำให้เจอหนังสือที่มีดีไซน์ที่แตกต่างจากปกติมาก ออกจากที่นี่ได้หนังสือมาสองเล่มแต่ยังไม่ได้ถ่ายรูป เป็นเกี่ยวกับแมวเล่มนึง อีกเล่มนึงเป็นการ์ตูนเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่างระหว่างสิงคโปร์กับญี่ปุ่น อ่านจบแล้วคิดว่าเปลี่ยนคำว่าสิงคโปร์เป็นไทยก็ใช้ได้ละเนี่ย เจ้าของร้านนี้น่าจะรักแมวพอควร เห็นมีหนังสือแมวขายหลายเล่มเลยค่ะ เพื่อนบอกว่าที่นี่ปกติจะมีแมวนั่งอยู่ตรงเคาเตอร์ มาทีไรก็เจอตลอดเลย พอเตยไปเท่านั้นแหล่ะไม่เจอแมว
นอกจากที่เล่าไปนี้ มีย่าน Haji lane อีกย่านที่เตยแนะนำให้ไปค่ะ ขายสินค้างานฝีมือ หรือเสื้อผ้าแบรนด์เล็กๆ ของดีไซน์เนอร์อะไรทำนองนั้นค่ะ เตยชอบร้าน Monday Off เป็นพิเศษ และแนะนำให้ทานคุ้กกี้ที่อยู่ตรงข้าม Selfie cafe คุ้กกี้อร่อยมาก โดม แม่ น้อง บอกอร่อยทุกคนเลย แถมแพคมาให้อย่างดี แพคเกจสวย เหมาะกับเอาไปเป็นของฝากค่ะ