จากคราวที่แล้วที่เขียนรีวิวสมุด Midori Traveler’s Notebook ไว้แล้ววันนี้อยากมาเปิดสมุดให้ดูว่า ข้างในสมุดที่เตยใช้อยู่เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้เตยยังไม่เจอรูปแบบการใช้งานสมุด Planner ที่ชัดเจนของตัวเองหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Planner Peace เพียงแต่คิดว่าการเปิดให้ดูข้างในน่าจะให้ไอเดียได้บ้างว่าจะใช้สมุดแบบ Traveler’s Notebook อย่างไรได้บ้าง
ก่อนหน้านี้เตยใช้สมุดผ้าปกลายแมวขนาด A6 แต่เห็นว่ามีคนชอบสมุดขนาดแบบ Midori ซึ่งเป็นปกหนังกันเยอะจึงซื้อมาลองใช้ดูว่าจะชอบสมุดขนาดนี้ไหม จะชอบใช้ปกหนังไหม และด้วยความที่ขนาดของสมุด Midori เป็นขนาดพิเศษทำให้ต้องทำสมุดขนาด 11x 21 cm ขึ้นมาใช้เองหรือไม่ก็ซื้อสมุด A5 แล้วมาตัดบางส่วนออก
อย่างที่เห็นคือสภาพหลังใช้มา 1 เดือนครึ่ง เจอรอยขีดข่วนเพียบเลย ไม่มีการทนุถนอมใดๆ ทั้งนั้น ตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าชอบผ้าหรือหนังมากกว่า ผ้าก็มีความนุ่ม เบา สบาย แต่เสน่ห์ของปกหนังที่เตยประทับใจคือ สีที่เปลี่ยนไปทำให้ดูขลังขึ้นและความคงทน คิดว่าถ้าใช้นานๆ คงให้อารมณ์ขลังกว่านี้แน่ๆ
เตยมักพกปากกาเพียงด้ามเดียวไปกับสมุดอยู่เสมอ เตยเห็นคนอื่นๆ ใช้ pen holder ในการเก็บปากกากันแต่เตยคิดว่าแค่ยางรัดที่ให้มาก็เอาอยู่แล้วเลยไม่ได้ซื้อมาใช้
ส่วนที่คั่นหนังสือที่มากับสมุด จริงๆ แล้วเตยไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่แต่เพราะมันมาพร้อมสมุดก็เลยรู้สึกว่าต้องใช้ ฮ่าๆ เตยไปซื้อที่ห้อยกุญแจมาใส่ที่ปลายด้วยเพื่อตกแต่งและให้เห็นชัดเจนขึ้น
ข้างในสมุด Midori Traveler’s Notebook
เตยใส่สมุด 5 เล่มกับซองพลาสติกอีก 1 ซอง ถือว่าเป็นสมุดที่อ้วนมากๆๆ อ้วนจนเห็นได้ว่าปลายสมุดเลยออกมาเกินสมุด แต่เตยก็ชอบนะ ดูมีอะไรเยอะดี
ซองพลาสติก
จริงๆ แล้วซองนี้เป็นปกสมุด planner ปี 2015 ของ Muji ที่เตยได้มาพร้อมกับสมุด planner เตยใช้สำหรับใส่กระดาษจุกจิกต่างๆ สติกเกอร์ post-it และ washi tape เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน
สมุดเล่มที่ 1 Life Book
เป็นสมุดคู่มือชีวิตของเตย เตยได้ไอเดียนี้มาจากการทำ Vision board แต่ถ้าทำ Vision board ของเตยใส่ในสมุดเนี่ยน่าจะดีกว่าเพราะว่าเตยพกสมุดเป็นประจำอยู่แล้วและยังสามารถอัพเดทสมุดของเตยได้ตลอดเวลาอีกด้วย โดยความตั้งใจของเตยคือ ทำ Vision board, Life list, Why อยู่ในสมุดเล่มนี้ทั้งหมด
สมุดเล่มที่ 2 Daily planner
เป็นสมุดที่ทำเอง ออกแบบเอง พิมพ์จากเครื่องพิมพ์ที่บ้านแล้วเย็บเล่มเอง หน้าปกใช้ภาพจากนิตยสาร ตรงกลางติด post-it สำหรับจดกิจกรรมของเดือนหน้าๆ เอาไว้ เพราะเล่มนี้มีแค่ 31 วันของเดือนมกราคมเท่านั้น
เตยออกแบบสมุดเล่มนี้ให้หน้าซ้ายเป็น Event หรือ Appointment ต่างๆ มี Most Important Task สำหรับงานสำคัญที่ต้องทำให้เสร็จวันนี้และมี To do อยู่ถัดมา ล่างสุดเป็น Gratitude คือจดสิ่งที่ดีๆ ที่เกิดขึ้นในเดือนนี้ ด้านขวามือไว้สำหรับเป็น Bullet journal หรือ braindump หรือ Sketches อะไรก็แล้วแต่ที่ต้องใช้วันนั้น
เล่มที่ 3 สมุด Projects
เล่มนี้เตยใช้สมุดจาก Muji มาตัดด้านข้างออก แต่สมุด Muji นั้นมีรูสำหรับใส่ห่วงทำให้สมุด project เล่มนี้อาจจะดูแหว่งๆ ไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นสมุดที่ใช้งานได้ดีสำหรับเตย เตยใช้เล่มนี้ในการจดและวางแผนโปรเจค ใช้เป็นที่สำหรับจด list หนังสือที่ยังไม่ได้อ่านแต่อยากอ่านด้วย พูดง่ายๆ คือเป็นสมุดรวมไอเดีย
ในแต่ละหน้าเตยจะแบ่งส่วนของหน้าไว้คือ ด้านซ้ายไว้ภาพรวมของโปรเจคหรืออาจติดภาพที่เป็น inspiration เอาไว้ ส่วนด้านขวาเป็น to do list เว้นแต่บางโปรเจคที่เตยรู้ว่าจะใช้แค่หน้าเดียวของสมุด อย่างรูปล่างนี้เป็นหน้าสมุด album ที่เตยอยากทำ เตยเขียนรายละเอียดและ sketch หน้าสมุดไว้ ด้านบนของทุกหน้าเตยแบ่งเป็นสองช่องคือ Areas ว่าเป็นเป็นโปรเจคเกี่ยวกับอะไร Personal, Business หรือว่า Craft ถัดมาเตยเขียนชื่อโปรเจคเอาไว้ เตยตั้งใจเอาไว้ว่าถ้าโปรเจคไหนทำเสร็จก็จะเอาไฮไลท์มาขีดให้รู้ว่าทำเสร็จแล้ว แต่ส่วนใหญ่เป็นโปรเจคระยะยาวทั้งนั้นเลยยังไม่ได้โอกาสนั้น 5555
ส่วนหน้านี้เป็นหน้ารวมไอเดียเขียน blog post วันไหนไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรก็สามารถมาเปิดดูแล้วเขียนได้เลย บางโปรเจคที่มีหลายๆ ขั้นตอนหรือมีโปรเจคย่อยๆ เยอะ เตยได้ทำสัญลักษณ์ไว้เหมือนกัน อย่างหน้านี้หน้าหัวข้อเตยวาดช่องสี่เหลี่ยมไว้
- P มาจาก Photos คือถ่ายภาพสำหรับ blog แล้ว
- E = Edited ปรับแต่งภาพแล้ว
- W = Write คือเขียนแล้ว
- S = Schedule คือตั้งเวลาโพสไว้แล้ว
สมุดเล่มที่ 4 สมุดจด
เป็นทั้งไดอารี่ จดโน๊ต เป็น Morning page ด้วย คือจดทุกอย่างเลย อย่างตอนที่ไปงานสัมมนา The New Rich ก็ใช้เล่มนี้ในการจดเหมือนกัน เล่มนี้เป็นสมุดของ Midori ที่ซื้อมาลองใช้เพราะมีคนชมเยอะว่าเนื้อกระดาษดีมาก (แต่แพงมากเลยค่าาา) ใช้สีน้ำก็เห็นเป็นรอยจางๆ ด้านหลังแต่ว่าไม่ซึมไปด้านหลัง
สมุดเล่มที่ 5 Career camp
เป็นสมุดสำหรับทำแบบฝึกหัดและจดสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการลงคอร์ส Career camp สมุดเล่มนี้จะอยู่แค่ชั่วคราวก็เลยใส่ไว้ใกล้ๆ กับสมุดเล่มที่ 4 เลยใช้ภาพจากนิตยสารมาติดเป็นหน้าปกอีกเหมือนกัน และเล่มนี้ก็ใช้สมุดกระดาษคราฟจาก Midori ด้วย ขอบอกว่ากระดาษดีมาก เนื้อดี เขียนลื่น ไม่ซึม ปลื้มมาก
จากการใช้สมุดแบบนี้มาเป็นเวลาเดือนกว่าๆ แล้ว เริ่มมองเห็นข้อดีและข้อดีหลายๆ อย่าง เตยจะค่อยๆ ปรับเปลี่ยนการใช้สมุดแล้วจะเอามาอัพเดทอีกทีนะคะ