อย่างที่เคยเขียนไปว่าเตยใช้สมุดแบบ Midori Traveler’s Notebook ที่เตยได้ลองทำมาใช้เองเรียกว่า Fauxdori ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว จนเริ่มเห็นรูปแบบการใช้งานของตัวเองก็เลยเอามาเขียนบันทึกไว้ในนี้ก่อนที่จะลองเปลี่ยนรูปแบบไป เนื่องจากวิธีการทำงานและตารางการใช้ชีวิตช่วงนี้ค่อนข้างแตกต่างจากเดิมมากและมีปัญหาเรื่องการบริหารเวลามาก โดยเฉพาะไม่มีเวลาอยู่กับตัวเองซึ่งเตยคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่เราทุกคนควรมีเวลาที่จะคิดทบทวนถึงสิ่งที่ผ่านมาและวางแผนอนาคต
เตยใช้สมุดเล่มสีน้ำเงินลายดอกที่มียางยืดบางกว่าเล่มอื่นๆ และมีห่วงให้ใส่สมุดได้อย่างต่ำ 3 เล่ม เล่มบนสุดเป็นสมุดที่เตยเย็บเองจากกระดาษวาดเขียนที่ค่อนข้างหนาทำให้สมุดออกมาหนาพอสมควร ส่วนเล่มกลางเป็นสมุดของ Zequenz และเล่มสุดท้ายเป็นสมุดของ Muji ที่เตยได้เพ้นท์ตกแต่งไว้ อย่างที่เห็นว่าทุกเล่มจะค่อนข้างหนา ทำให้สมุด Fauxdori หนาตามขึ้นมาด้วย แต่เตยหาซื้อกระดาษที่เขียนลื่นๆ แบบที่ชอบไม่ได้ก็เลยใช้สามเล่มนี้ไปก่อน
สมุดเล่มแรก : สมุดเย็บเองจากกระดาษวาดเขียนไว้เขียนเป้าหมายชีวิต
สมุดเล่มแรกเป็นสมุดที่รวบรวมทุกอย่างเกี่ยวกับเตย เน้นไปเรื่องของเป้าหมาย การวางแผนระยะยาว สิ่งที่อยากทำในระยะยาว ลักษณะนิสัยของเตยที่ได้เรียนรู้มาเตยก็จดไว้เป็นคล้ายๆ Mindmap ของเตย ตอนแรกที่วางแผนลาออกจากงานแล้วตั้งวันที่เอาไว้ว่าจะออกอีกสองปีเตยก็ทำตารางไว้ขีดฆ่าวันคล้ายๆ กับว่าเป็นการนับถอยหลังจนถึงวันนั้นเอาไว้ แต่ว่าไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู
ในรูปล่างนี้เป็น life plan ที่เตยวาดตารางออกมาจนถึงอายุ 60 ปี แล้วก็เขียนลงในช่องไว้ว่าปีไหนจะทำอะไร ซึ่งจริงๆ แล้วตอนแรกเขียนไว้เพราะมีเป้าหมายจะเที่ยวให้ครบ 35 ประเทศและทุกจังหวัดในประเทศไทยเลยวาดตารางมาจะได้เขียนประเทศลงไปได้แล้วจะได้วางแผนการเงินการงานได้ ในความเป็นจริงเตยเขียนได้อย่างมากก็ 10 ปีแรกเท่านั้น ซึ่งก็ไม่เป็นไรอีกเหมือนกัน เหมือนฝันไว้ก่อน แต่เวลาทำจริงๆ เราค่อยๆ ทำทีละปีก็พอ ที่เตยพกสมุดเล่มนี้ไว้ด้วยเสมอก็เพื่อเป็นการย้ำเตือนถึงเป้าหมายในชีวิตของตัวเอง และเรียนรู้เรื่องราวของตัวเองให้มากขึ้นด้วย
สมุดเล่มกลาง : สมุด Zequenz สำหรับ Bullet Journal
สมุดเล่มนี้เป็นสมุดที่เตยใช้บ่อยที่สุด เพราะเป็นสมุดกึ่ง planner โดยเตยใช้เทคนิค Bullet Journal ในเล่มในการจดบันทึกและวางแผนงานในแต่ละวัน เล่มนี้แหล่ะที่เตยเริ่มคิดว่ามันอาจจะไม่เหมาะกับชีวิตในช่วงนี้เท่าไหร่ bullet journal ไม่ได้เน้นวางแผนตามเวลามากนัก แต่หลายๆ วันที่ผ่านมาเตยต้องวาดตารางเวลาขึ้นมาเองเพื่อให้รู้ว่าต้องไปทำอะไรตอนกี่โมงบ้าง ต้องโพสอะไรตอนไหน แล้ว brain dumb ในแต่ละวันก็เยอะจนไม่อยากเขียนซ้ำๆ แล้ว รวมถึงเตยอยากจะเน้น MIT หรือ Most Important Task ในแต่ละหน้าด้วย แต่วิธีนี้มันทำให้เราเห็นสิ่งที่ต้องทำเยอะเกินไป
ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะแก้ไขเป็นแบบไหน แต่ก็ใช้วิธีนี้เรื่อยๆ ไปก่อน ข้อดีของ bullet journal คือไม่ต้องคิดมากว่าจะไปจดหน้าไหนเปิดมาหน้าล่าสุดก็จดได้เลย
ในหน้าแรกของแต่ละเดือนเตยพิมพ์ Tracker มาใส่ไว้ด้วย โดยแต่ละเดือนก็จะไม่มีเหมือนกัน แล้วแต่ว่าเดือนนั้นมีเป้าหมายอย่างไรและเน้นด้านไหน อย่างในรูปล่างนี้ตอนแรกตั้งใจจะเน้นงาน DIY แต่มีการตัดสินใจที่กระทันหันเข้ามาก็เลยเปลี่ยนไป
ถัดมาเตยเขียนสิ่งที่ต้องทำในแต่ละเดือนเอาไว้ เน้นเอางานจากเดือนที่แล้วมาจดไว้
เวลามีโปรเจคเยอะๆ เตยจะเขียนกรอบขึ้นมาแล้วเขียนว่าตอนนี้มีโปรเจคอะไรที่ต้องทำบ้าง แล้วอยากทำอะไรเพิ่มบ้าง จากนั้นเลือกมา 2-3 งานเท่านั้นเพื่อ Focus แล้วบางครั้งที่งานด่วนหรือเน้นมากๆ เตยก็ใช้วิธีเดียวกันคือเขียนมาเลยแล้วตีกรอบ ขีดไฮไลท์ รวมทั้งมี Sketch รูปเว็บบ้าง พูดง่ายๆ คือเล่มนี้จดทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในหัวนั่นเอง
สมุดเล่มสุดท้าย : สมุด Muji ที่ตกแต่งด้วยตัวปั๊ม สำหรับจดไอเดีย
สมุดเล่มนี้เตยต้องบอกตามตรงว่า เป็นเล่มที่รกมาก ความตั้งใจแรกคือเอาไว้จดไอเดียของหัวข้อที่จะเขียนในบลอคและงานฝีมือโดยจะมีกล่องลี่เหลี่ยมให้ขีดสำหรับโปรเจคที่ทำเสร็จแล้ว โดยเน้นเขียนแต่ชื่อหัวข้อ แต่ปรากฎว่ามันเยอะและไม่มีมีการจัดเรียงที่ดีทำให้หาไม่เจอบ้าง มองไม่เห็นบ้าง สุดท้ายก็ไม่ค่อยได้ใช้เท่าที่ควร คือใช้กลับมาดูเวลาจะคิดไอเดีย แต่ไม่ได้จดว่าอันไหนที่ทำไปแล้วหรือยังไม่ได้ทำบ้าง
ตอนหลังมีการปรับปรุงเล็กน้อยคือจากการเขียนต่อๆ กันก็ใช้เป็นหนึ่งหน้าคู่เป็นหนึ่งโปรเจค อย่างที่เห็นในรูปล่างก็คือจะมีกรอบหัวข้อเหมือนเดิมแล้วด้านซ้ายเอาไว้เขียนรายละเอียด ด้านขวาเป็นสิ่งที่ต้องทำหรือลิสของโปรเจคย่อยๆ
นอกจากนี้เตยก็รวมพวก sketch ของสิ่งที่เหมือนกันไว้ด้วยกันอย่างเช่น หน้านี้เป็น Journal art ที่คิดว่าจะทำ การรวบรวมไอเดียทั้งหมดไว้ในที่เดียวแล้วทำอย่างสม่ำเสมอนี้ช่วยเตยมาหลายครั้งแล้ว เหมือนมีกล่องของความคิดอยู่กับตัวเสมอ ทำให้สมองโล่งขึ้นเพราะไม่ต้องคอยจำไอเดียพวกนี้แล้วทำให้ไปทำงานที่ตั้งใจไว้ได้ง่ายขึ้น เพียงแต่ว่าการเขียนบันทึกอย่างมีระบบจะทำให้สมุดเล่มนี้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่านี้ ซึ่งเตยคิดว่าคงต้องค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ เท่านั้นเอง
เวลาที่เตยต้องการออกไปข้างนอกแบบตัวเบาๆ หรือรู้แน่นอนว่าจะไม่ค่อยมีเวลาได้ใช้สมุดพวกนี้เตยจะพกไปแค่สมุดเล่มกลางเพื่อจดบันทึกเท่านั้น บางครั้งอย่างเวลาที่ไม่ได้พกไปแต่ดันนึกอะไรออกมาได้เตยก็จะใช้แอพลิเคชั่นใน iphone จดแล้วส่งเข้าเมล์แทน พอเวลาเช็คเมล์แล้วค่อยเอามาจดในสมุดอีกทีค่ะ
เตยชอบใช้สมุดมากๆ เคยใช้แอพต่างๆ มาช่วยจดแล้วมันก็ไม่ได้ความรู้สึกอย่างเวลาจดบนสมุด เตยลองมาหลากหลายวิธีแล้วและก็จะลองไปอีกเรื่อยๆ ปัจจุบันเตยก็ได้เปลี่ยนสมุดทั้งหมดในเล่มไปแล้วและจะอัพเดทให้ดูกันอีกที