เป้าหมายเดียวของฉันในวันที่มีแต่ความเศร้า

ใครก็ตามที่เคยมีประสบการณ์ที่อยู่ในภาวะซึมเศร้าคงรู้ดีว่าการคิดวางแผนชีวิตไปถึงอนาคตนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ต้องทานยา ต้องพยายามขุดตัวเองออกจากเตียง ต้องพยายามที่จะไม่ร้องไห้ ขอแค่ให้ตัวเองมีชีวิตรอด มีความสุขแค่ 1 นาทีก็ยากแล้วเรื่องอนาคตนี่ไม่ต้องพูดถึง ถ้าเราตั้งเป้าหมายแล้วทำไม่ได้เราก็จะยิ่งรู้สึกล้มเหลวในชีวิตเข้าไปอีกเหมือนกับวางแผนที่จะล้มเหลวเอาไว้แล้วจากคนที่ใช้ชีวิตแบบมีเป้าหมายตลอดแถมสนุกกับการตั้งเป้าหมายด้วย แต่พอชีวิตมันมีแต่เมฆดำลอยอยู่บนหัวผสมกับความรู้สึกที่หัวใจเต้นแรงมากจากภาวะวิตกกังวลทุกอย่างมันดูยากไปหมด

พอผ่านจุดนั้นมาได้แล้วโดยไม่ต้องทานยาและไม่ต้องไปเจอคุณหมอ พอหันกลับไปมองตัวเองตอนนั้นแล้วรู้สึกขอบคุณตัวเองมากๆ ที่อย่างน้อยยังมีความหวังในชีวิตและตัดสินใจตั้งเป้าหมายเล็กๆ ในชีวิตขึ้นมา เป้าหมายเดียวที่มีคือ

“ฉันจะสูดหายใจให้เต็มปอดหนึ่งครั้ง”

ยากและง่ายในเวลาเดียวกัน

หลายๆ คนคงคิดว่าเป้าหมายอะไรง่ายขนาดนี้ใครๆ ก็ทำได้ แต่คนส่วนใหญ่ไม่เคยสังเกตด้วยซ้ำว่าเราหายใจอยู่จริงรึเปล่า รู้ตัวหรือไม่ว่าเรากำลังหายใจเข้าหรือออก เรากำลังหายใจลึกขนาดไหนอยู่ การหายใจให้ถูกต้องและมีคุณภาพจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเสียทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากเพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้

โอกาสสำเร็จเยอะ สามารถทำได้ร้อยเปอร์เซนต์

การได้รู้สึกถึงความสำเร็จในชีวิตแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทำให้รู้สึกชีวิตนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร พอทำได้หนึ่งครั้งก็อยากทำครั้งที่สองและสามต่อไปเรื่อยๆ บางครั้งก็อยากลุกขึ้นจากตื่นขึ้นมาเพราะวันนี้ฉันทำเป้าหมายได้แล้วนะ ยิ่งหายใจก็ยิ่งสำเร็จ รู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาเฉยๆ

ได้ประโยชน์ทั้งทางด้านร่างกาย

เพิ่งมารู้ทีหลังว่า คนที่มีภาวะซึมเศร้ามักมีลมหายใจที่สั้นกว่าปกติดังนั้นการฝึกหายใจจึงวนกลับมาช่วยทำให้หายใจได้ยาวขึ้นและยังช่วยลดการหลั่งของฮอร์โมนความเครียดตัวหลักของร่างกาย ช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน ซึ่งสามารถลดความรู้สึกเจ็บปวด ลดความดันโลหิตได้ด้วยการทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เพิ่มการหมุนเวียนเลือด ลดความตึงเครียดทางร่างกาย ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นได้ เพิ่มความสามารถของสมองในการจดจ่อและทำงานอย่างตั้งใจ ประโยชน์เยอะมากๆ (แต่ยังต้องทานยาที่หมอสั่งนะคะ)

ได้อยู่กับปัจจุบันอย่างแท้จริง

ความทุกข์มักเกิดจากสองสิ่งคือ การนึกถึงอดีตและการนึกถึงอนาคต ปัจจุบันในที่นี้คือ ณ ขณะลมหายใจนี้ ไม่ใช่วันนี้ ไม่ใช่ปีนี้ แต่เป็นลมหายใจที่กำลังผ่านเข้าออกในร่างกายเราตอนนี้ ดังนั้นการหายใจจึงเปิดโอกาสให้เราได้อยู่กับปัจจุบันอย่างแท้จริง ได้มองโลกอย่างช้าลง ได้มีเวลาสังเกตใจตัวเองมากขึ้นด้วย ได้พักจากอดีตเพราะมันเป็นเรื่องของลมหายใจที่ผ่านไปแล้ว

ถ้าใครไม่รู้จะตั้งเป้าหมายอะไรลองฝึกหายใจ ลองสักหนึ่งลมหายใจดูก่อนค่ะ

Updated January 10, 2022